พุทธศักราช 2543
ส่วนที่ 1
ชื่อเครื่องหมาย ที่ตั้ง และวัตถุประสงค์ของสมาคม
|
ข้อ1. สมาคมนี้มีชื่อว่า สมาคมนักเรียนเก่าสุทธิวราราม ใช้อักษรย่อ ส.สธ. ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า SUTHIWARARAM ALUMNI ASSOCIATION ใช้อักษรย่อ SAA
ข้อ2. เครื่องหมายของสมาคม เป็นรูปอาร์มกรอบสีเขียวพื้นสีขาวหรือสีเงินมีอักษร ส.สธ. สีเขียวทับอยู่บนดอกบัวบานสีชมพูตามรูปและบักษณะตามผนวกแนบท้ายข้อบังคับนี้
ตราของสมาคมจัดทำเป็นรูปอาร์ม ภายในมีอักษร ส.สธ. ทับอยู่บนดอกบัวบาน
ข้อ3. สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม เลขที่ 1726 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 |
ข้อ4. สมาคมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
4.1 เพื่อสนับสนุนส่งเสริมความสัมพันธ์และสามัคคี ระหว่างสมาชิก และครอบครัวของสมาชิกและนักเรียนโรงเรียนวัดสุทธิวราราม
4.2 เพื่อส่งเสริมความรู้ การกีฬา การพลานามัย และการพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับสมาชิกและครอบครัว
4.3 เพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนตามทำนองคลองธรรม ให้ความอนุเคราะห์ในเรื่องสวัสดิการ ตลอดจนการช่วยเหลือเกื้อกูลแก่สมาชิก
4.4 เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา การกีฬา การดนตรี และกิจกรรมต่าง ๆ ของนักเรียนโรงเรียนวัดสุทธิวราราม
4.5 เพื่อสนับสนุนส่งเสริมเผยแพร่เกียรติคุณ และความเจริญของโรงเรียนวัดสุทธิวราราม
4.6 เพื่อร่วมประกอบกิจกรรมอันเป็นสาธารณะกุศล และประโยชน์แก่สังคม อันไม่เกี่ยวกับการเมือง
ส่วนที่ 2
สมาชิก
ข้อ5. สมาชิกของสมาคมมี 2 ประเภทคือ
5.1สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ผู้ทรงเกียรติหรือผู้มีอุปการะคุณต่อสมาคม เป็นกรณีพิเศษ ที่คณะกรรมการของสมาคมมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรเชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
5.2 สามชิกสามัญ ได้แก่อดีตทั้งนักเรียน ครู และอาจารย์โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
ข้อ6. ผู้ที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกสามัญของสมาคม ต้องยื่นหนังสือสมัครเข้าเป็นสมาชิกตามแบบของสมาคมต่อสมาคม เมื่อนายกสมาคมอนุมัติแล้วให้นายทะเบียนออกบัตรสมาชิกแก่ผู้สมัคร การพิจารณารับผู้สมัครรายใดเป็นสมาชิกให้เป็นไปตามระเบียบและวิธิการที่สามคมกำหนด
ข้อ7. สมาชิกมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
7.1 ได้รับประโยชน์อันพึงได้จากกิจการและกิจกรรมของสมาคม ใช้สถานที่ของสมาคมตามวัตถุประสงค์ของสมาคม ตามระเบียบและวิธีการที่สมาคมกำหนด
7.2 เสนอความเห็นเกี่ยวกับกิจการและกิจกรรมของสมาคมต่อคณะกรรมการสมาคม
7.3 ตรวจตรากิจการ และทรัพย์สินของสมาคม ในระหว่างเวลาทำการของสมาคม
7.4 ประดับเครื่องหมายของสมาคมบนเครื่งประดับหรือเครื่องนุ่งห่ม ตามโอกาสอันควร
7.5 เข้าร่วมประชุมใหญ่ หรือประชุมกรรมการ
7.6 ออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่
7.7 ขอให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อ8. สมาชิกมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
8.1 ปฎิบัติตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และระเบียบแบบแผนของสมาคม
8.2 สมาชิกสามัญ ต้องชำระค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุงตลอดชีพ สองร้อยบาท ในวันสมัครเข้าเป็นสมาชิก การจ่ายค่าบำรุงอื่น ๆ เป็นไปตามที่สมาคมกำหนด
8.3 สมาชิกผู้ใด เปลี่ยนแปลง ชื่อ ที่อยู่ ตำแหน่งหน้าที่ หรือย้ายภูมิลำเนาให้แจ้งนายทะเบียนของสมาคมทราบเป็นหนังสือภายใน 30 วันนับแต่วันเปลี่ยนแปลง
ข้อ9. สมาชิกของสมาคมพ้นจากสมาชิกภาพ เมื่อ
9.1 ตาย
9.2 ลาออก
9.3 เมื่อมีความประพฤติเป็นที่น่ารังเกียจของสมาคมทั่วไป หรือมีพฤติการณ์อันจะนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม และคณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ
ข้อ10. การลาออก สมาชิกต้องแจ้งต่อเลขาธิการเป็นลายลักษณ์อักษร และให้สมาชิกภาพสิ้นสุดนับแต่วันลาออก
ข้อ11. ในกรณีที่ให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ ข้อ 9.3 ต้องเป็นมติของที่ประชุมคณะกรรมการด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ และในการพิจารณาให้สมาชิกผู้นั้นมีโอกาสชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการด้วยตนเองหรือหนังสือ แต่หากสมาคมได้มีหนังสือเชิญอย่างน้อยหนึ่งครั้งให้ใช้สิทธิชี้แจงแล้ว ถ้าสมาชิกผู้นั้นยังเพิกเฉยให้ถือว่าสมาชิกไม่ประสงค์จะชี้แจง
การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพ คณะกรรมการต้องประกาศนามสมาชิกผู้ถูกสั่งให้พ้นจากสมาชิกภาพได้ ณ สำนักงานของสมาคมด้วยทุกคราว
ส่วนที่ 3
คณะกรรมการ
ข้อ12. คณะกรรมการประกอบด้วย สมาชิก ผู้อำนวยการ ครู อาจารย์โรงเรียนวัดสุทธิวราราม จำนวนรวมกันไม่เกิน 35 คน
ข้อ13. ให้ที่ประชุมใหญ่ เป็นผู้เลือกสมาชิกซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากที่ประชุมจำนวน 18 คน เป็นกรรมการของสมาคม โดยวิธีลงคะแนน ในคราวที่กรรมการสิ้นสุดอายุลงทั้งคณะ
ให้สมาชิกในที่ประชุมเสนอชื่อสมาชิกผู้เข้าร่วมประชุม โดยมีสมาชิกอีกไม่น้อยกว่า 5 คน ให้การรับรองต่อที่ประชุม เพื่อให้ที่ประชุมเลือกเป็นกรรมการ
ในการลงคะแนนเลือกกรรมการ ให้สมาชิกคนหนึ่งที่เข้าร่วมประชุมมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกรรมการได้ไม่เกิน 18 คน
ให้ผู้ที่ได้ลงคะแนนเสียงสูงสุด และลดหลั่นมาตามลำดับจนถึงลำดับสุดท้ายของจำนวนกรรมการเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการ ในกรณีมีผู้ได้คะแนนลำดับสุดท้ายเท่ากันหลายคน ให้ผู้ได้คะแนนเท่ากันนั้นจับสลากเหลือเท่าจำนวนกรรมการในลำดับสุดท้ายเป็นกรรมการ
ข้อ14. ให้กรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุม นัดประชุมภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับเลือกตั้งเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคม ในการประชุมให้ผู้ร่วมประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธาน และอีกคนหนึ่งเป็นเลขานุการ
ให้กรรมการที่เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งมีสิทธิเสนอชื่อสมาชิกหนึ่งคนต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาเลือกตั้งเป็นนายกสมาคม
ให้ที่ประชุมเลือกตั้งนายกสมาคมโดยวิธีลงคะแนนลับ ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดถือเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคม ในกรณีมีผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเกินกว่าหนึ่งคน ให้ที่ประชุมลงคะแนนลับใหม่ในระหว่างผู้ได้รับคะแนนสูงสุดด้วยกันจนกว่าจะเหลือผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเพียงคนเดียว หากไม่สามารถหาผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเพียงคนเดียวได้ ให้ใช้วิธีการจับสลากเลือกนายกสมาคมในระหว่างผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเท่ากัน
ข้อ15. ให้นายกสมาคมนัดประชุม กรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับการเลือกตั้ง และเป็นผู้เสนอชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการของสมาคมอีกจำนวนหนึ่งโดยรวมกับนายกสมาคมและกรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งแล้วต้องไม่เกิน 35 คน ทั้งนี้บุคคลดังกล่าวจะต้องเป็น ผู้อำนวยการ ครู อาจารย์ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม จำนวนไม่เกิน 4 คน นอกนั้นจะต้องเป็นสมาชิกของสมาคม
ข้อ16. คณะกรรมการมีอายุอยู่ในตำแหน่งสมัยละ 2 ปีปฎิทิน เมื่อคณะกรรมการสิ้นสุดอายุลง ให้คณะกรรมการชุดเดิมนัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่ ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดเดิมสิ้นสุดอายุลง
ข้อ17. นอกจากกรรมการจะพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว ให้กรรมการพ้นจากตำแหน่งเฉพาะตัวในกรณีต่อไปนี้
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) พ้นจากสภาพสมาชิก
(4) พ้นจากการเป็นผู้อำนวยการ ครู อาจารย์โรงเรียนวัดสุทธิวราราม เฉพาะผู้เป็นกรรมการในขณะดำรงตำแหน่งดังกล่าว
(5) ที่ประชุมใหญ่หรือคณะกรรมการมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ให้พ้นจากตำแหน่ง
ข้อ18. ในกรณีมีตำแหน่งกรรมการว่างลงก่อนวาระ ให้คณะกรรมการคัดเลือกสมาชิกหรือครูของโรงเรียนวัดสุทธิวรารามแล้วแต่กรณีเข้าดำรงตำแหน่งแทน ผู้ที่ได้เป็นกรรมการใหม่ ให้มีเวลาอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาที่กรรมการผู้ออกไปนั้นชอบที่จะอยู่ได้
หากตำแหน่งนายกสมาคมว่างลงก่อนครบวาระให้อุปนายกคนที่ 1 ที่ 2 หรือที่ 3 ทำหน้าที่แทนตามลำดับก่อนหลังจนครบวาระ
ข้อ19. การเลือกตั้งและแต่งตั้งกรรมการใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ให้นำไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนดภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งครบทุกขั้นตอน หรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม
ในระหว่างที่ยังไม่มีการจดทะเบียนกรรมการชุดใหม่ ให้กรรมการชุดเดิมปฎิบัติหน้าที่กรรมการสมาคมต่อไปจนกว่าจะมีการจดทะเบียนกรรมการสมาคมชุดใหม่
ข้อ20. ให้คณะกรรมการชุดเดิมส่งมอบกิจการงาน เอกสาร หลักฐาน บัญชี ทรัพย์สิน การเงิน ของสมาคมแก่กรรมการชุดใหม่ภายใน 14 วัน นับแต่วันได้รับการจดทะเบียนกรรมการชุดใหม่
ส่วนที่ 4
อำนาจและหน้าที่ของกรรมการ
ข้อ21. คณะกรรมการของสมาคมเป็นผู้ดำเนินกิจการของสมาคมตามกฎหมาย และข้อบังคับภายใต้การควบคุมดูแลของที่ประชุมใหญ่
ข้อ22. คณะกรรมการของสมาคมเป็นผู้แทนของสมาคมในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอกและมีอำนาจมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนทำนิติกรรมกับบุคคลภายนอกได้โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการ
ข้อ23. ให้นายกสมาคมจัดให้มีประชุมคณะกรรมการอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุกรอบสามเดือน หากนายกสมาคมเห็นสมควรจะเรียกประชุมกรรมการอีกเมื่อไรก็ได้
ในการประชุมคณะกรรมการจะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าสองในห้าของคณะกรรมการจึงจะเป็นองค์ประชุม
การออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมคณะกรรมการให้ใช้วิธีชูมือ กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่ง ในการลงคะแนน
ข้อ24. ข้อปรึกษาซึ่งเกิดเป็นปัญหาในที่ประชุมกรรมการนั้นให้ชี้ขาดตัดสินเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ให้นายกสมาคมเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการ ในกรณีนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุมคราวใด ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานที่ประชุมสำหรับคราวนั้น
ข้อ25. นายกสมาคมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งกรรมการ สมาชิก ครู อาจารย์ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ให้ดำรงตำแหน่งและหน้าที่ในสมาคม เป็นคณะกรรมการบริหาร คณะอนุกรรมการสาขาต่าง ๆ คณะกรรมการ และคณะทำงาน
ข้อ26. ตำแหน่งและหน้าที่ของกรรมการ
คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วยนายกสมาคม อุปนายก เลขาธิการ รองเลขาธิการ ผู้ช่วยเลขาธิการ เหรัญญิก ผู้ช่วยเหรัญญิก นายทะเบียน ผู้ช่วยนายทะเบียน ปฏิคม ผู้ช่วยปฏิคม สาราณียกร ผู้ช่วยสาราณียกร ประชาสัมพันธ์ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน
นายกสมาคม มีอุปนายกจำนวน 3 คน คอยช่วยเหลือ มีหน้าที่บริหารกิจการของสมาคมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ นโยบาย ข้อบังคับและระเบียบของสมาคม เป็นประธานที่ประชุมใหญ่สามัญและวิสามัญ เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร เป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการ เป็นผู้รักษาระเบียบการประชุม และดำเนินการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ
เลขาธิการ มีรองเลขาธิการ และผู้ช่วยเลขาธิการ จำนวนตำแหน่งละ 1 และ 2 คน ตามลำดับ คอยช่วยเหลือ มีหน้าที่ปฏิบัติงานทั่วไปของสมาคม ในส่วนที่ใม่ใช่งานในหน้าที่ของกรรมการเจ้าหน้าที่อื่น งานนโยบายซึ่งนายกสมาคม มอบหมายตลอดจนงานธุรการ เช่น การจัดระเบียบวาระ และรายงานการประชุมร่างโต้ตอบ และเก็บรักษาหนังสือหลักฐานของสมาคม กับทำทะเบียนเก็บรักษาทรัพย์สินของสมาคม
เหรัญญิก มีผู้ช่วยเหรัญญิกจำนวน 1 คน คอยช่วยเหลือมีหน้าที่รับจ่าย เก็บรักษาเงิน ทำบัญชี และรายงานงบฐานะการเงินของสมาคมให้สมาชิก และคณะกรรมการทราบตามระยะเวลาที่กำหนด
นายทะเบียน มีผู้ช่วยนายทะเบียนจำนวน 1 คน คอยช่วยเหลือ มีหน้าที่ทำและรักษาทะเบียนสมาชิก กับออกบัตรสมาชิกติตตามทวงถาม และเรียกเก็บเงินค่าบำรุงจากสมาชิก
สมุดทะเบียนสมาชิกของสมาคมอย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้
- ชื่อ ที่อยู่ ที่ทำงาน และอาชีพสมาชิก
- ประเภทสมาชิก
- วัน เดือน ปี ที่เป็นสมาชิก หรือพ้นจากสมาชิกภาพ
- วัน เดือน ปี ที่ผ่านการศึกษา หรือเคยเป็นครู อาจารย์
ปฏิคม มีผู้ช่วยปฏิคมจำนวน 1 คน คอยช่วยเหลือมีหน้าที่ต้อนรับ และอำนวยความสะดวกแก่สมาชิก หรือผู้เยี่ยมเยือน รวมทั้งควบคุมดูแลสถานที่และพัสดุครุภัณฑ์ของสมาคม
สาราณียกร มีผู้ช่วยสาราณียกรจำนวน 1 คน คอยช่วยเหลือ มีหน้าที่จัดทำบรรดาเอกสารต่าง ๆ เช่น ข่าวสาร แถลงการณ์จัดทำวารสารเผยแพร่กิจการของสมาคม
ประชาสัมพันธ์ มีผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จำนวน 1 คน คอยช่วยเหลือ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการของสมาคม ตลอดจนติดต่อเชื่อมโยงกิจการของสมาคม กับสมาชิก หรือผู้เกี่ยวข้องให้บังเกิดผลดีแก่สมาคม
ที่ปรึกษา มีจำนวนตามความเหมาะสม มีหน้าที่ให้คำปรึกษาเมื่อได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการ และเข้าร่วมประชุมตามคำเชิญของประธานการประชุม
คณะอนุกรรมการสาขาต่าง ๆ มีจำนวนสาขา และจำนวนกรรมการแต่ละคณะตามความเหมาะสม มีหน้าที่บริหารและกำกับการดูแลงานของสมาคมตามสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคม
คณะกรรมการและคณะทำงาน จัดตั้งเป็นครั้งคราวตามโอกาส มีจำนวนกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสม มีหน้าที่บริหารงานและดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบแต่ละครั้ง
เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน มีหัวหน้าและผู้ช่วยจำนวนรวมกันไม่เกิน 2 คน มีหน้าที่ดำเนินงานด้านธุรการของสำนักงาน
ส่วนที่ 5
การประชุมใหญ่
ข้อ27. คณะกรรมการของสมาคมต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญอย่างน้อยปีละครั้ง ภายใน 90 วัน นับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน
ข้อ28. คณะกรรมการสมาคมจะเรียกประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อใดก็สุดแต่เห็นสมควร
สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าห้าสิบคน จะทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการของสมาคมให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญก็ได้ ในหนังสือร้องขอนั้นต้องระบุว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อการใด
เมื่อคณะกรรมการของสมาคมได้รับหนังสือร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญตามวรรคสอง ให้คณะกรรมการของสมาคมเรียกประชุมใหญ่วิสามัญโดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ
ถ้าคณะกรรมการไม่เรียกประชุมภายในระยะเวลาตามวรรคสาม สมาชิกที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมหรือสมาชิกอื่นรวมกันมีจำนวนไม่น้อยกว่าจำนวนสมาชิกตามวรรคสองจะเรียกประชุมเองก็ได้
ข้อ29. ในการเรียกประชุมใหญ่ คณะกรรมการของสมาคมต้องส่งหนังสือนัดประชุมไปยังสมาชิกทุกคน ซึ่งมีชื่อในทะเบียนของสมาคมก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน หรือลงพิมพ์โฆษณาอย่างน้อยสองคราวในหนังสือพิมพ์ที่แพร่หลายในท้องที่ฉบับหนึ่งก่อนวันนัดประชุม ไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก็ได้
การเรียกประชุมใหญ่ต้องระบุสถานที่ วัน เวลา และระเบียบวาระการประชุมและจัดส่งรายละเอียดและเอกสารที่เกี่ยวข้องตามควรไปพร้อมกันด้วย สำหรับการเรียกประชุมใหญ่โดยการพิมพ์โฆษณารายละเอียด และเอกสารดังกล่าว ต้องจัดไว้และพร้อมที่จะมอบให้แก่สมาชิกที่ร้องขอ ณ สถานที่ ที่ผู้เรียกประชุมกำหนด
ในการประชุมใหญ่สามัญ ระเบียบวาระการประชุมอย่างน้อยต้องมีข้อความดังนี้
1. รายงานผลการดำเนินงาน
2. พิจารณารับรองงบดุลและงบรายรับรายจ่าย
3. แต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน
ข้อ30. การประชุมใหญ่ของสมาคมต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนจึงจะเป็นองค์ประชุม
ในการประชุมใหญ่ครั้งใด ถ้าไม่ได้องค์ประชุมตามที่กำหนดไว้ และการประชุมใหญ่นั้นได้เรียกตามคำร้องขอของสมาชิกก็ให้งดการประชุม แต่ถ้าเป็นการเรียกประชุมใหญ่ที่สมาชิกมิได้เป็นผู้ร้องขอ ให้คณะกรรมการของสมาคมเรียกประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก การประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจำต้องครบองค์ประชุม
ข้อ31. มติของที่ประชุมใหญ่ ให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ
สมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ32. สมาชิกจะมอบอำนาจให้ผู้ใดมาเข้าประชุมและออกเสียงแทนตนมิได้
ข้อ33. ในกรณีที่จะมีมติเรื่องใด ถ้าส่วนได้เสียของกรรมการหรือสมาชิกของสมาคมผู้ใดขัดกับประโยชน์ได้เสียของสมาคม กรรมการหรือสมาชิกของสมาคมผู้นั้นจะออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้นไม่ได้
ส่วนที่ 6
บัญชีและการเงิน
ข้อ34. ในการรับ จ่ายเงินของสมาคมจะต้องทำใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญจ่ายเป็นหลักฐาน พร้อมลงลายมือชื่อผู้รับหรือจ่าย และประทับตราสมาคมเป็นสำคัญ
ข้อ35. นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินการจรได้ไม่เกินเดือนละสามหมื่นบาท การจ่ายเงินนอกเหนือจากนี้ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการ โดยคะแนนเสียงข้างมากไม่น้อยกว่าสองในสามของคณะกรรมการที่เข้าประชุม
ข้อ36. การจ่ายเงินของสมาคมทุกรายการ ยกเว้นการจ่ายเงินสดตาม ข้อ 35. ต้องจ่ายด้วยเช็คระบุชื่อผู้รับ โดยลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายสองคน คือนายกสมาคมหรืออุปนายกกับเหรัญญิกหรือผู้ช่วยเหรัญญิก และประทับตราของสมาคมเป็นสำคัญ
ข้อ37 ให้เหรัญญิกมีเงินสดย่อยสำรองจ่ายประจำสำนักงานได้ไม่เกินห้าพันบาท ส่วนที่เกินนั้นให้นำฝากธนาคาร ซึ่งคณะกรรมการเห็นชอบในนามของสมาคม
การฝากเงินประเภทเดินสะพัด หรือฝากประจำกับธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่น หรือการแสวงหาผลประโยชน์หรือการลงทุนอย่างอื่น จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
ข้อ38. บรรดาเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคเพื่อเก็บดอกผลบำรุงกิจการใดของสมาคมต้องดำนินการตามเจตนารมย์ของผู้บริจาคจะนำไปใช้ในกิจการอื่นไม่ได้
บรรดาทรัพย์สินที่มีผู้ศรัทธาอุทิศให้เป็นสมบัติของสมาคม จะต้องมีทะเบียนและลงบัญชีเป็นทรัพย์สินของสมาคมให้ถูกต้อง ทรัพย์สินดังกล่าวจะขาย แลกเปลี่ยน หรือให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใดไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ทั้งนี้ไม่รวมถึงทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคเพื่อบำเพ็ญทาน
ข้อ39. หลักฐานการรับเงินก็ดี การจ่ายเงินก็ดี ต้องเก็บรักษาไว้เพื่อตรวจสอบตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงจะทำลายได้ ในการทำลายเจ้าหน้าที่ผู้รักษาเอกสารจะต้องรายงาน และได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการก่อน
ข้อ40. ผู้สอบบัญชีต้องได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่และไม่เป็นผู้ที่อยู่ในคณะกรรมการของสมาคม กับจะต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้สอบบัญชีอนุญาต ตามกฏหมายในระหว่างที่ยังไม่มีการประชุมใหญ่ หากผู้สอบบัญชีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยเหตุใดก็ตาม ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งผู้สอบบัญชีได้เป็นการชั่วคราว
ให้คณะกรรมการ กำหนดค่าตอบแทนให้แก่ผู้สอบบัญชี
ส่วนที่ 7
การวางระเบียบ การแก้ใขข้อบังคับ และการเลิกสมาคม
ข้อ41. ในกรณีจำเป็นเพื่อให้การปฏิบัติตามข้อบังคับนี้เป็นไปโดยเรียบร้อย คณะกรรมการมีอำนาจวางระเบียบว่าด้วยการนั้นได้ แต่ต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับนี้
ข้อ42. การแก้ใขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม จะกระทำได้ก็แต่โดยมติของที่ประชุมใหญ่โดยเสียงข้างมากไม่น้อยกว่าสองในสามของสมาชิกที่เข้าประชุมและสมาคมต้องนำข้อบังคับที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม ไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายใน 40 วัน นับแต่วันลงมติ
ข้อ43. การเลิกสมาคมโดยที่ประชุมใหญ่ต้องลงมติเป็นลำดับกันสองครั้ง โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าสามในสี่ของสมาชิกทั้งหมด และได้ดำเนินตามวิธีการ ดังนี้
ข้อความและเหตุที่จะเลิกสมาคมได้จดลงในคำบอกกล่าวนัดประชุมใหญ่ครั้งแรก
ที่ประชุมใหญ่ครั้งแรกได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากไม่น้อยกว่าเก้าในสิบของผู้เข้าร่วมประชุม
การประชุมใหญ่ครั้งหลังนั้น ได้นัดประชุมกันในเวลาไม่น้อยกว่าสิบสี่วันและไม่มากว่าหกสัปดาห์ภายหลังการประชุมครั้งแรก
ข้อความอันที่ประชุมได้ลงมติครั้งแรกนั้นได้จดลงไว้เต็มสำนวนในคำบอกกล่าวนัดประชุมครั้งหลัง
ที่ประชุมครั้งหลังได้ลงมติยืนยันตามมติที่ประชุมครั้งแรกโดยคะแนนเสียงข้างมากไม่น้อยกว่าสามในสี่ของสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม
ข้อ44. เมื่อเลิกสมาคมแล้ว ทรัพย์สินของสมาคมให้ตกเป็นของโรงเรียนวัดสุทธิวรารามหรือมูลนิธิรุจิรวงศ์
ส่วนที่ 8
บทเฉพาะกาล และการใช้ข้อบังคับ
ข้อ45. ให้คณะกรรมการบริหารของสมาคม ตามข้อบังคับเดิม เป็นคณะกรรมการบริหารและมีอำนาจบริหารกิจการของสมาคมตามข้อบังคับนี้ต่อไป จนครบวาระของคณะกรรมการดังกล่าว โดยไม่ต้องเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งใหม่
ข้อ46. สมาชิกของสมาคม ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ตามข้อบังคับเดิม ให้คงดำรงสมาชิกภาพของสมาคมตามข้อบังนี้ต่อไป โดยอยู่ภายใต้บังคับของข้อบังคับนี้ด้วย
ข้อ47. ให้ยกเลิกข้อบังคับสมาคมนักเรียนเก่าสุทธิวราราม ซึ่งได้รับการจดทะเบียน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2542 และใช้ข้อบังคับนี้แทนตั้งแต่วันที่นายทะเบียนได้อนุมัติให้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงข้อบังคับนี้ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 2 กันยายน 2543
(พลเรือเอกสุขชาติ เลิศล้ำ)
นายกสมาคมนักเรียนเก่าสุทธิวราราม
|